ตรวจเอดส์ด้วยตัวเอง คืออะไร มีข้อดีอย่างไร

การ ตรวจเอดส์ด้วยตัวเอง คือ การที่เราสามารถใช้ ชุดตรวจHIV ตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยตัวเอง ไม่ว่าที่ไหน ก็ตาม ที่สะดวกใจ โดยชุดตรวจ ดังกล่าวจะเป็นแบบ Rapid Test ที่มีอุปกรณ์ครบ สะดวกต่อกรใช้งาน สามารถตรวจ ได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ และรู้ผลภายในไม่กี่นาที่ ประมาณ 15-20 นาทีก็จะทราบผล

หากผลตรวจเป็นบวก ให้รีบไปตรวจที่ยืนยันผล ที่สถานพยาบาลทันที หากผลตรวจเป็นลบ ก็สามารถ เชื่อถือได้ มากกว่า 90%  (เลือกชุดตรวจที่ได้รับมาตรฐานอย.ไทย) และหาก ยังไม่มั่นใจ ก็สามารถตรวจซ้ำ ได้อีก ที่ระยะเวลาเสี่ยงนานขึ้น หรือ จะตรวจเช็คทุกเดือน สำหรับผู้ ที่มีความเสี่ยง เป็นประจำ ก็สามารถทำได้

ทั้งนี้ ชนิดของสิ่งที่ ใช้ตรวจ ก็จะแตกต่างกันไปแล้ว แต่ยี่ห้อ แต่ส่วนใหญ่ จะใช้เลือด จากปลายนิ้วเพียง 2-3 หยด ไม่อันตราย และไม่น่ากลัว นอกจากนี้ ควรเลือกชนิด ของชุดตรวจให้เหมาะ กับระยะเวลาเสี่ยง

เช่น ชุดตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อ HIV ผู้ตรวจควรเสี่ยงมา แล้วกว่า 3-4 สัปดาห์ ชุดตรวจที่ ตรวจหาได้ ทั้งแอนติบอดี ต่อเชื้อ HIV และตรวจหา p24 Antigen ในคราวเดียวกัน ผู้ตรวจ ควรเสี่ยงมาแล้วกว่า 2-4 สัปดาห์

ข้อดีของการตรวจเอดส์ด้วยตัวเอง

     1. มีความเป็นส่วนตัว

     2. สะดวกพกพาง่าย ใช้ตรวจที่ไหนก็ได้ อยากตรวจเวลาไหนก็ได้

     3. ประหยัดเวลา ขั้นตอนในการตรวจใช้เวลาไม่นาน และทราบผลภายในไม่กี่นาที

     4. ข้อมูลและประวัติการตรวจเป็นความลับ

     5. ตรวจได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

     6. ทำให้ตรวจพบได้ไวขึ้น หากมีความเสี่ยงจริง

     7. เข้ารับการรักษา รับยา ได้ไวขึ้น ไม่ต้องรอให้มีอาการแสดง หรือเสี่ยงติดเชื้อไม่รู้ตัว ทำให้ผู้ป่วยยังคงสามารถใช้ชีวิตดังคนปกติ ไม่มีอาการแสดง หรือเจ็บป่วยง่าย ที่จะเกิดจากการติดเชื้อ HIV

ตรวจเอชไอวีที่สถานพยาบาล มีการตรวจแบบใดบ้าง

ปัจจุบันวิธีการตรวจเอชไอวี หรือเอดส์จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ

     – Anti-HIV antibody เป็นวิธีการตรวจหาเชื้อเอชไอวีด้วยการตรวจหาภูมิต้านทานของเชื้อ ผ่านทางเลือด ซึ่งจะทำการวินิจฉัยการทำงานของระบบภูมิต้านทานภายในเซลล์เม็ดเลือดขาว โดยวิธีการตรวจนี้จะสามารถตรวจพบเชื้อได้ในระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน หลังการติดเชื้อ

     – NAT (Nucleic Acid Testing) เป็นวิธีการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี โดยจะตรวจปริมาณของเชื้อและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย แต่วิธีนี้แพทย์มักจะใช้ในกรณที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีการตรวจที่อาจมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วในการตรวจ สามารถตรวจพบเชื้อได้ใน 1-4 สัปดาห์หลังการติดเชื้อ

     – PCR (Polymerase Chain Reaction) เป็นเทคนิค การตรวจหาสารพันธุกรรม ในระดับอณูชีวโมเลกุล ซึ่งสามารถ ตรวจได้ในเด็กทารก ที่มีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อ จากมารดาหลังคลอดตั้งแต่ 1 เดือน และใช้ตรวจ กับผู้ใหญ่หลัง ได้รับความเสี่ยงมาแล้ว ประมาณ 14 วันขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม ตรวจเอดส์ด้วยตนเอง หรือ ชุดตรวจHIVด้วยตนเอง ทางคณะกรรมการอาหาร และยา ได้ทำการปลดล็อค ให้วางจำหน่าย

เพื่อให้ประชาชนทั่วไป สามารถ เข้าถึงกัน ได้ง่าย และได้ทำการ ตรวจคัดกรองเบื้องต้น ด้วยตนเอง โดยชุดตรวจ ที่วางจำหน่ายจะต้องมี มาตรฐานจากอย. ถึงจะมีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย ต่อผู้ที่ ทำการตรวจ

         ดังนั้น หากใคร ที่กำลังมี ความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อ สามารถ หาซื้อ ชุดตรวจ มาทำการ ตรวจคัดกรอง เบื้องต้น ที่บ้าน ง่าย ๆ ด้วยตนเอง

เพราะหากตรวจเจอเชื้อเร็ว ก็จะได้เข้า รับการรักษา ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม  เพื่อไม่ให้เชื้อเอชไอวี พัฒนาไปสู่ระยะที่ทำการ รักษายาก หรือ ระยะโรคเอดส์ นั่นเอง