ชุดตรวจ HIV ยี่ห้อไหนดี สำหรับในปัจจุบันนี้การตรวจ HIV เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ๆ เพราะหากเริ่มมีเพศสัมพันธ์กับใครสักคนแล้ว ให้คิดในแง่ร้ายไว้ก่อนว่าตนเองอาจได้รับความเสี่ยง ดังนั้น ในตอนนี้ทางองค์การอาหารและยาไทย จึงอนุญาตให้ประชาชนสามารถตรวจHIV ด้วยตนเองได้แล้ว โดยชุดตรวจที่เลือกใช้จะต้องเป็นชุดตรวจแบบ HIV Self Test ที่ผ่านอย.ไทย เท่านั้น

ณ ปัจจุบันนี้มี ชุดตรวจ HIV ด้วยตนเอง แบบ Self Test มีเพียงยี่ห้อเดียว และเป็นเจ้าแรกที่ผ่านมาตรฐานอย.ไทย นั่นก็คือ “อินสติ (INSTI)” ใบอนุญาต อย. ไทย 64-2-1-1-0000679

โดยเป็นชุดตรวจที่ผลิตจากประเทศแคนาดา ได้รับการการันตีคุณภาพมาตรฐานจากสถาบันหรือหน่วยงานที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น

– CE หรือ EC Certificate

– WHO Pre-Qualified (World Health Organization) องค์การอนามัยโลก

– Health Canada

อินสติชุดตรวจHIV ด้วยตนเองนี้ เป็นการตรวจหาแอนติบอดี ซึ่งสามารถตรวจได้แม้ระยะเวลาเสี่ยงน้อย ที่ทางแบรนด์แนะนำ คือ 21-22 วันหลังรับความเสี่ยง ทั้งนี้จะตรวจจากตัวอย่างเลือดปลายนิ้ว 1 หยด  และรู้ผลได้ภายใน 1 นาที นับเป็นการตรวจที่ใช้เวลาน้อยมาก แต่ในทางกลับกันก็รู้ผลรวดเร็วมากเช่นกัน  จึงเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย

โดยความแม่นยำของ INSTIชุดตรวจคัดกรองHIV มีความแม่นยำกว่า 99% โดยความไวเชิงวินิจฉัย (Sensitivity) 100% ความจำเพาะเชิงวินิจฉัย (Specificity) 99.5%

หากท่านใดสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandhivtest.com

อย่างไรก็ตาม การตรวจHIV ในปัจจุบันนี้สามารถตรวจได้ด้วยตนเองแล้วง่าย ๆ ที่บ้าน หรือทุกที่ที่สะดวก ดังนั้น สำหรับใครที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และอยากทำการ ตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเอง แต่ยังมีความกังวลใจว่าจะใช้ ชุดตรวจHIV ยี่ห้อไหนดี จึงจะมีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน

ก็ขอแนะนำว่าให้เลือกชุดตรวจที่ผ่าน อย.ไทย ผ่านการทดสอบจากสถาบันชั้นนำมาแล้วว่า ปลอดภัย มีความไว ความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพจริง ผู้ตรวจเองก็จะสามารถมั่นใจในผลตรวจได้จริง ๆ ช่วยให้สบายใจ และคลายกังวลมากขึ้น

อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า >> ในขณะนี้มีเพียง ชุดตรวจHIV อินสติ ยี่ห้อเดียวเท่านั้น ที่ผ่านอย.ไทย

โดยท่านสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วประเทศ และสามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ ดูรายละเอียดสถานที่จำหน่ายได้ที่นี่ https://thailandhivtest.com/insti-ใกล้บ้านฉัน

การ ตรวจพบเชื้อHIV ตั้งแต่เนิ่น ๆ นอกจากจะทำให้เรารู้ทราบถึงสถานะร่างกายของตนเองได้เร็วแล้ว ยังช่วยให้เราได้เข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม อีกทั้งลดโอกาสในการแพร่กระจายเชื้อเอชไอวีไปสู่บุคคลอื่น