วิธี เช็ค เอดส์ ต้องเช็คหรือสังเกตจากอะไร

ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยว่า โรคเอชไอวี (HIV) หรือโรคเอดส์ (AIDS) นั้น น่ากลัวเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากว่าเป็นโรคที่ยังไม่มียาตัวไหนสามารถรักษาอาการให้หายขาดได้

อีกทั้งยังเป็นโรคที่โลกของเรามีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ

โรคเอดส์ มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ไม่สวมใส่ถุงยางอนามัย

หรือการสัมผัสเข้ากับสารคัดหลั่งของผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี

อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า โรคเอดส์เป็นโรคที่ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของเรานั้นเกิดการบกพร่อง ที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี

หากร่างกายของเราได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว

เชื้อก็จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งมีหน้าที่คอยสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยนั้นมีภูมิคุ้มกันต่ำ

จนร่างกายไม่สามารถต้านทานต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้

อีกทั้งยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคฉวยโอกาสได้ง่ายมากขึ้น อาทิเช่น วัณโรค โรคปอดบวม เชื้อรา โรคเกี่ยวกับระบบประสาท

หรืออาจส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตลงในที่สุด

ปัจจุบันนี้เชื่อว่าผู้ที่ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี เพราะกว่าจะรู้ตัวเชื้อเอชไอวีก็ได้พัฒนาไปสู่ระยะเอดส์แล้ว ดังนั้น เมื่อเชื้อเอชไอวีได้เข้าสู่ร่างกายแล้ว

สามารถเช็คกันได้ง่าย ๆ ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก และสามารถแบ่งอาการออกเป็น 3 ระยะด้วยกันทั้งหมด คือ  

          – ระยะเริ่มแรก ในระยะนี้เป็นระยะเริ่มแรกของการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งอาการมักจะไม่ปรากฏออกมาให้เห็น แต่เชื้อก็จะยังแพร่กระจายไปทั่วส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการคล้าย ๆ กับเป็นไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาการดังกล่าวจะเริ่มปรากฏให้เห็นใน 1-2 เดือน หลังได้รับเชื้อ และจะอาการแบบนี้ไปประมาณ 2-3 สัปดาห์

เช่น มีไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีผื่นขึ้น เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น

          – ระยะอาการสงบ ในระยะนี้อาการก็จะยังไม่แสดงให้เห็นได้ชัดเจนเหมือนกับระยะแรก หรือแทบจะไม่มีการแสดงอาการป่วยใด ๆ เลย

แต่เชื้อเอชไอวีก็จะยังคงอยู่ภายในร่างกายและจะยังคงทำลายระบบภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง หากผู้ป่วยทำการตรวจแล้วไม่พบเชื้อ และไม่ได้เข้ารับการรักษา เชื้อเอชไอวี

ก็จะค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนผู้ป่วยรู้สึกมีอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้น เช่น มีไข้ อ่อนล้าหมดแรง ท้องร่วงเรื้อรัง มีเชื้อราในช่องปาก

ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา อาการก็จะค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ระยะเอดส์ในที่สุด

          – ระยะเอดส์ เป็นระยะสุดท้าย ของการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งระยะนี้ ระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายได้ ถูกทำลาย ลงอย่างหนัก จนไม่สามารถ ต้านทาน ต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ได้

ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น และอาจเสียชีวิตลงในที่สุด ซึ่งในระยะนี้จะสามารถสังเกตกันได้ง่าย ๆ

คือ มีไข้ตลอดเวลา น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ท้องร่วงเรื้อรัง มีจุดสีขาว หรือแผลบริเวณลิ้น ปาก เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม วิธี เช็ค เอดส์ จากการเช็คหรือสังเกตจากอาการนั้น อาจไม่ได้ผล

เพราะว่า อาการของการติดเชื้อHIV ก็เป็นอาการของโรคอื่น ๆ ได้เช่นกัน

ดังนั้น การตรวจหาเชื้อHIV จึงเป็นวิธีเช็คเอดส์ที่ดีที่สุด

ปัจจุบันนี้ สำหรับ ใครที่คิดว่าตนเอง มีความเสี่ยง ต่อการติด เชื้อเอชไอวี สามารถหาซื้อ ชุดตรวจเอชไอวี ด้วยตนเอง มาทำการ ตรวจคัดกรอง เบื้องต้นด้วยตนเองได้

ซึ่งสามารถ รู้ผลได้ใน 15-20 นาที และอ่านผล ได้ด้วยตาเปล่า ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ทำการ ปลดล็อค ให้ประชาชนทั่วไป

ที่มี ความเสี่ยง ต่อการ ติดเชื้อเอชไอวี สามารถ เข้าถึง ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ได้แล้ว โดยชุดตรวจ ใช้งาน ได้จริงนั้น

จะต้องมี มาตรฐาน อย. มีความ ปลอดภัย แม่นยำ และได้ มาตรฐาน

ทั้งนี้ หากมี ความเสี่ยง จริง ๆ เราขอ สนับสนุน ให้ท่าน ตรวจ มากกว่า เช็คจากอาการ เพราะหาก ตรวจเจอเชื้อ ตั้งแต่ระยะแรก ก็มีโอกาส ในการ เข้ารับ การรักษา

และรับยาต้าน เพื่อไม่ให้ เชื้อเอชไอวี พัฒนาไป สู่ระยะเอดส์ ได้นั่นเอง