instil-hiv

อนาคตอันใกล้ รักษา เอดส์ หายขาด ปัจจุบันรักษาผู้ติดเชื้อHIVกันอย่างไร

อนาคตอันใกล้ รักษา เอดส์ หายขาด

อนาคตอันใกล้ รักษา เอดส์ หายขาด ผู้ป่วยเอชไอวีที่รักษาได้หายขาดจริง ๆ เกิดขึ้นได้เพราะเหตุใด แล้วทำไมถึงยังไม่มีการนำมาใช้กับผู้ติดเชื้อHIV และปัจจุบันรักษาผู้ติดเชื้อHIVกันอย่างไร

อนาคตอันใกล้ รักษาเอดส์ หายขาด เท่าที่ทราบกันโดยทั่วไป คือ เอชไอวียังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จำเป็นจะต้องทานยาทุก ๆ วัน ไปตลอดชีวิต ห้ามขาด เพราะจะทำให้เชื้อที่หลับอยู่ตื่นตัวขึ้นมาและเพิ่มจำนวน แพร่กระจายทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกายได้

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้ที่หายขาดจากโรคติดเชื้อเอชไอวี”

ด้วยความบังเอิญทางการแพทย์หรือว่าอย่างไร มีผู้ที่หายขาดจากการติดเชื้อHIV เพราะเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งที่เป็นร่วมด้วย โดยวิธีการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์หรือปลูกถ่ายไขกระดูก แล้วพบว่าสเต็มเซลล์ที่ได้รับบริจาคมานั้นมีคุณสมบัติในการต้านทานเชื้อHIV ได้ ทั้งนี้มีผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อเอชไอวีแล้วทั้งหมด 3 เคส

แล้วทำไมถึงยังไม่นำการปลูกถ่ายไขกระดูกมาใช้ในการรักษา HIV

  • – เหตุผลแรกเลยคือ ปกติแล้วการปลูกถ่ายไขกระดูกจะใช้รักษาในผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ไม่ได้มีไว้เพื่อการรักษาHIVโดยเฉพาะ
  • – ทำให้หากผู้ป่วยเอชไอวี ไม่มีการป่วยเป็นมะเร็งร่วมด้วยแล้ว จะไม่มีการปลูกถ่ายไขกระดูก
  • – ไม่ได้การันตีว่าการปลูกถ่ายไขกระดูจะช่วยรักษา HIV ได้ทุกคน อย่างที่กล่าวมาข้างต้น คือ เป็นความบังเอิญที่สเต็มเซลล์หรือไขกระดูกที่ได้รับบริจาคมานั้นมีความพิเศษในการต้านทานเชื้อ ซึ่งไม่ได้แปลว่าทุกคนจะมีความพิเศษเช่นนี้ ไม่สามารถสร้างได้ เป็นภูมิคุ้มกันหรือยีนที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
  • – การปลูกถ่ายไขกระดูก มีผลกระทบต่อร่างกายมากเกินไป ค่าใช้จ่ายแพง อีกทั้งการนำมาใช้เพื่อรักษาเอชไอวีเพียงอย่างเดียวซับซ้อนและยากมาก
  • – เพราะปัจจุบันการรักษาเอชไอวี ด้วยการทานยาทุก ๆ วัน ก็สามารถยับยั้งเชื้อไม่ให้เจริญเติบโตได้แล้ว เพียงแต่ต้องทานยาอย่างวินัยสม่ำเสมอไปตลอดชีวิต ก็สามารถทำให้ผู้ป่วย มีภูมิคุ้มกันที่ดี สุขภาพแข็งแรง และอายุยืนยาว สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ สามารถปรึกษาแพทย์เรื่องการมีบุตรได้ เพื่อวางแผนให้ลูกปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า HIVสามารถรักษาให้หายขาดได้ แน่นอนว่าเป็นความหวังในการวิจัยค้นหาวิธีการรักษาที่เป็นเฉพาะเอชไอวี และปลอดภัยต่อคนไข้ ที่สามารถนำมาใช้กับผู้ป่วยเอชไอวีคนอื่น ๆ ได้ในอนาคต

ผู้ป่วยเอชไอวีควรดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ทานยาต้านอย่างมีวินัย เพื่อเตรียมพร้อมรอคอยการรักษาให้หายขาดได้ในอนาคตที่กำลังจะมาถึง

สำหรับผู้ที่คาดว่าตนเองมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อเอชไอวี ควรตรวจหาการติดเชื้อ และยิ่งถ้าหากมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อบ่อย ๆ อย่างน้อยควรตรวจหาเชื้อปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจเช็คสถานะเลือดตนเองอยู่เสมอ และป้องกันที่จะส่งต่อเชื้อให้ผู้อื่น ในกรณีที่ติดเชื้อแบบไม่รู้ตัว

หากไม่สะดวกที่จะตรวจเอชไอวีที่สถานพยาบาล สามารถตรวจด้วยตนเองได้แล้ว โดย อินสติ ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง มีอย.ไทย เลขที่อนุญาต 64-2-1-1-0000679 อินสติ นำเข้าจากประเทศแคนาดา มาตรฐานระดับสากาล ทั้ง WHO Prequalified, CE Marked และ Health Canada