instil-hiv

ชุดตรวจ HIV gen4 เป็นอย่างไร เป็นการตรวจแบบไหน ตรวจแล้วรู้ผลเลยหรือเปล่า

ชุดตรวจ HIV gen4

ชุดตรวจ HIV gen4 เป็นอย่างไร เป็นการตรวจแบบไหน ตรวจแล้วรู้ผลเลยหรือเปล่า ปัจจุบันนี้ ยังคงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี (HIV) รวมไปถึงผู้ป่วยโรคเอดส์ (AIDS) ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนพยายามที่จะคิดค้นวิธีการต่าง ๆ หรือแม้แต่การคิดค้นหาตัวยาที่สามารถช่วยทำการรักษาอาการต่าง ๆ เหล่านี้ให้หายขาดได้

แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าในขณะนี้นั้น โรคเอชไอวี หรือโรคเอดส์ ยังไม่มียาที่สามารถรักษาให้หายขาดได้จริง ๆ ทำให้โรคนี้ยังคงเป็นโรคที่ร้ายแรง เพราะหากร่างกายของเราได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว เชื้อก็จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว จนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานบกพร่อง ส่งผลให้ร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอ และไม่สามารถต้านทานต่อเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้ หากไม่มีการทานยา หรือ ขาดยาที่ขณะนี้เป็นเพียงยา ที่ช่วยลดปริมาณเชื้อยับยั้งการเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนของเชื้อ ป้องกันไม่ให้เข้าสู่ภาวะ หรือ ระยะเอดส์ ลดอาการโรค ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

การเข้ารับการตรวจหาเชื้อถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรให้ความสนใจ เพราะการเข้ารับการตรวจเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้คุณรู้ทราบถึงสถานะร่างกายของตนเองว่าติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ แต่ทว่า ในสมัยนี้เป็นเรื่องที่ยากนักที่คน ๆ หนึ่งจะเดินทางไปตรวจหาเชื้อเอชไอวีกับทางโรงพยาบาลได้แบบง่าย ๆ เพราะบางคนอาจเกรงกลัวต่อสายตาคนรอบข้าง บางคนก็อาจกลัวจะเสียเวลาและค่าใช้จ่ายบ้าง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายในการตรวจนั้นจะสูงแค่ไหน

แต่รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันนี้สามารถเข้ารับ การตรวจหาเชื้อ กับทางโรงพยาบาลรัฐได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง เพียงแค่มี บัตรประชาชน แต่หากใคร ที่เป็นกังวล และต้องการตรวจหาเชื้อ แบบรู้ผลเร็ว ๆ ก็มีวิธีที่ง่ายกว่านั้น เช่นกัน  ก่อนอื่น เราไปทำความรู้จักกันดี กว่าว่าในปัจจุบันนี้ มีการตรวจเอชไอวีด้วยวิธีใดกันบ้าง

การตรวจคัดกรองหาเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้จะแบ่งออกเป็น 3 วิธีด้วยกัน คือ

 

        – Anti-HIV วิธีการตรวจนี้ จะใช้เวลา รอผลเพียง 1-2 ชั่วโมง เท่านั้น แต่ผลตรวจที่ได้ จะเป็นผลย้อนหลัง ไปประมาณ 1 เดือน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคืนคุณไปมีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อมา มีเพศสัมพันธ์ แบบไม่สวมใส่ถุงยางอนามัย ถุงยางรั่ว เป็นต้น วิธีการนี้ สามารถเข้ารับการตรวจได้ฟรี ตามโรงพยาบาลรัฐทั่วไป วิธีนี้ใช้ตรวจได้ เมื่อมีความเสี่ยงมาแล้วกว่า 3-4 สัปดาห์

        – NAT (Nucleic Acid Technology) วิธีการตรวจนี้ สามารถชี้วัดผล จากร่างกายย้อนหลัง ไปประมาณ 3-7 วัน หลังเสี่ยง โดยวิธีการตรวจนี้ จะมีความไวในการตรวจ เป็นวิธีที่ถือว่า มีความแม่นยำ มากพอสมควร และทางแพทย์ มักใช้ในกรณี ที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อสูง วิธีนี้ใช้ตรวจได้ เมื่อมีความเสี่ย งมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์

          – Rapid HIV Test หรือ ชุดตรวจแบบรู้ผลวันเดียว ปัจจุบันนี้ การตรวจนี้ จะสามารถรู้ผลได้ ภายในเวลาเพียง 20 นาที ซึ่งถือว่า มีความไวกว่าชนิดอื่น ๆ มาก สามารถทำการตรวจ ได้เองที่บ้านง่าย ๆ แต่วิธีนี้ ในปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ

                    1. การตรวจแบบ หาแอนติบอดีที่มีต่อเชื้อเอชไอวี วิธีนี้ใช้ตรวจได้ เมื่อมีความเสี่ยงมาแล้วกว่า 3-4 สัปดาห์

                    2. การตรวจแบบ หาแอนติบอดีที่มีต่อเชื้อเอชไอวี และตรวจหา p24 Antigen ในคราวเดียวกันได้ หรือเรียกว่า ชุดตรวจHIVgen4 วิธีนี้ใช้ตรวจ ได้เมื่อมีความเสี่ยง มาแล้วกว่า 2 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม หากใครที่กังวลว่า ตนเองเป็นผู้ ที่มีความเสี่ยง สามารถหาซื้อ ชุดตรวจเอชไอวีgen4 หรือ ชุดตรวจแบบตรวจหาแอนติบอดี ที่มีต่อเชื้อเอชไอวี มาทำการตรวจได้ ด้วยตนเองก่อนได้ ซึ่งจะเลือกวิธีไหน ก็แล้วแต่ สะดวกของแต่ละบุคคล ชุดตรวจHIV สามารถทำการตรวจได้เองที่บ้านง่าย ๆ เพราะหากตรวจเจอเชื้อเร็วก็มีโอกาสในการเข้ารับการรักษารับยาต้านได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม